คริปโต สกุลเงินดิจิทัลที่ดูเหมือนกำลังไปได้สวย
แต่เอ๊ะ! ทำไมล่าสุดได้มีการออกกฎหมาย ห้าม ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล นำคริปโตมาเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงมีการจับตาดูผู้ให้บริการในระบบ ไม่ให้นำคริปโตไปจ่ายค่าสินค้าบริการเช่นกัน ถ้าฝ่าฝืนกฎหมายมีโทษถึงต้องระงับการให้บริการบัญชีนั้นๆ เลยทีเดียว แบบนี้ก็แย่สิ
ทำไม ทำไม ทำไม??
ทำไมหน่วยงานราชการไทย ถึงมีมุมมองแบบนั้น นั่นก็เพราะว่าคริปโตเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนสูงมาก อย่างงที่ทุกคนทราบกัน จึงไม่เข้าข่ายที่จะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ นอกจากนั้น การเข้าถึงร้านค้าที่รองรับการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยวิธีนี้ ปัจจุบันยังถือว่าน้อยมาก ไม่เป็นที่ยอมรับในการนำไปชำระสินค้าหรือบริการอย่างกว้างขวางนั่นเอง
ในขณะเดียวกันยังมีจุดอ่อนเรื่องความปลอดภัย อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเหรียญคริปโตฯ ถูกโจรกรรมข้อมูลบ่อยแค่ไหน บวกกับต้นทุนค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นในการโอนระหว่างกระเป๋า ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนจากคริปโต ไปเป็นเงิน Fiat เหมือนกับการที่สภาพคล่อง + เสถียรภาพของการแลกเปลี่ยนยังเชื่อถือไม่ได้ 100% แถมยังมีโอกาสที่การทำธุรกรรมจะไม่สำเร็จในการแลกเปลี่ยนแบบ P2P หรือ Peer to Peer ด้วย
ท้ายสุดและสุดท้ายคือเรื่องของระยะเวลาในการโอนต้องรอคอยนานกว่าการโอนเงินในระบบการเงินปกติ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ส่งผลให้คริปโต ยังไม่สามารถนำมาใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ในปัจจุบันแต่ไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีมารองรับจุดนี้ ปรับปรุงแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยจนทำให้คริปโตกลายเป็นที่ยอมรับกว้างขวางมากขึ้นก็เป็นได้